top of page
Alistair Chevalier

จากต้นกำเนิดสู่การรังสรรแบล็คฟอเรสท์ในแบบเฉพาะตัวของ เลอ บอนเนอร์

ป่าแบล็คฟอเรสต์คือจุดเริ่มต้นของหนึ่งในขนมหวานที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ผ่านการสืบต่อและถ่ายทอดออกมาหลากหลายรูปแบบจากเชฟที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่นเดียวกับเลอ บอนเนอร์ ที่ซึ่งเชฟได้รังสรรเค้กแบล็คฟอเรสต์นี้ออกมาตามแบบฉบับเฉพาะตัวด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ยังคงไว้ด้วยแก่นแท้แห่งต้นกำเนิดด้วยองค์ประกอบหลักอย่างครบถ้วน ผ่านการคัดสรร แสวงหาวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อสร้างสรรค์ขนมหวานชิ้นนี้ขึ้นมาใหม่ ด้วยความปรารถนาที่จะนำเสนอความพิถีพิถันแห่งรสชาติ และจิตวิญญาณของสุนทรียะแห่งขนมหวานที่เรียกว่า ‘เค้กแบล็คฟอเรสต์’ และนี่คือเรื่องราวของขนมหวานนี้ในรูปแบบของ เลอ บอนเนอร์



ภายใต้ความอุดมสมบูร์และร่มเงาแห่งป่าทางตะวันเฉียงใต้ของประเทศเยอรมันนี สถานที่ซึ่งจิตวิญญาณของเค้กแบล็คฟอเรสต์ได้ถือกำเนิดขึ้น คือ Kirschwaẞer หรือบรั่นดีที่ใสราวคริสตัล เฉกเช่นท่วงทำนองที่ขับขานถึงฤดูกาลแห่งการผลิบานของเชอร์รี่ป่าและกลิ่นหอมเย้ายวนที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเชฟได้นำความพิเศษของกลิ่นสัมผัสนี้มาผสมอยู่ในชั้นสีขาวดุจหิมะบนยอดเขา เปรียบเสมือนแก่นแท้แห่งแบล็คฟอเรสต์ ที่คอยย้ำเตือนดังสิ่งเตือนใจถึงต้นกำเนิดแห่งขนมหวานนี้


เชอร์รี่สีแดงเข้มเปรียบเสมือนหัวใจแห่งเรื่องราวทั้งหมด รสสัมผัสหอมหวาน ที่เชฟเพิ่มความแตกต่างที่น่าหลงใหลด้วยเชอร์รี่ลูกเล็กของฝรั่งเศสที่นำไปแช่ใน Eau de Vie คล้ายกับการเต้นรำสอดประสานของรสสัมผัสที่บ่งบอกถึงความรัก ความปรารถนา ความหอมหวาน และความแข็งแกร่ง ราวกับสวนแห่งรสชาติที่รอการค้นพบ


ลองจินตนาการถึงชั้นเนื้อเค้กช็อคโกแลตที่สีเข้มราวกับยามค่ำคืนอันเงียบสงบ สัมผัสแห่งผืนดินที่ห่างไกล ผ่านการถ่ายทอดรสสัมผัสด้วยโกโก้ที่ถือกำเนิดขึ้นบนดินแดนประวัติศาสตร์ของประเทศกาน่า ที่ได้รับการดูแลมานานหลายศตวรรษ ราวกับเสียงกระซิบถึงความลับของรุ่งอรุณและนิทราที่ยาวนาน ข้ามห้วงมหาสมุทรและกาลเวลา


ความน่าดึงดูดใจบนเส้นทางที่ตัดผ่านป่าเมื่อต้องแสงจันทร์ยามราตรี ดาร์กช็อคโกแลตคือสัมผัสที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการเดินทาง เมื่อรวมกับสีแดงราวทับทิมที่เปล่งประกายภายใต้มนต์สะกดของ Griottines และ Morello Cherry Gelée


สายน้ำและลำธารที่ถูกถ่ายทอดผ่านซอสช็อคโกแลตรสเข้มที่ราดสลับอยู่บนเค้กแบล็คฟอเรสต์ จากการผสมผสานรสสัมผัสของดาร์กช็อคโกแลตจากหลายแหล่งปลูกบนผืนดินที่ต่างกัน ผ่านเรื่องราวและห้วงฤดูกาลที่ยาวนานเฉพาะตัว ขับขานเป็นท่วงทำนองดังเครื่องดนตรีหลากชิ้น ที่สร้างการสอดประสานเมื่อบรรเลงร่วมกันอย่างน่าอัศจรรย์


สัมผัสสุดท้ายของโกโก้นิบส์ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทางนี้ เฉกเช่นความขรุขระบนเส้นทางในป่า ที่เป็นสิ่งเตือนใจถึงหนทางอันยาวไกล แต่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขและความทรงจำมากมาย มีผงโกโก้ที่ถูกโรยไว้บนจานราวกับสายลมที่พัดผ่าน ประดับตกแต่งด้วยใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นราวเสียงกระซิบบนการเดินทางแห่งรสชาติยาวนานของแบล็คฟอเรสต์


สำหรับเชฟแล้วนั้น เค้กแบล็คฟอเรสต์ที่ เลอ บอนเนอร์ เป็นมากกว่าแค่เค้กที่เสิร์ฟบนจาน แต่คือเรื่องราวที่แต่ละชั้นเปรียบเสมือนบทหนึ่งๆ ในนวนิยายที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างปราณีตและลึกซึ้ง ถักทอออกมาเป็นเรื่องราวของรสชาติและเนื้อสัมผัส ผ่านส่วนผสมแต่ละอย่างที่มีลักษณะเฉพาะ แต่ละเทคนิคที่เปรียบเช่นการหักมุมของการเล่าเรื่อง


ขณะที่คุณลิ้มรสของเค้กแบล็คฟอเรสต์จากเลอ บอนเนอร์ ลองจินตนาการถึงการเดินทางในป่าแบล็คฟอเรสต์เมื่อยามราตรี เนื้อขนมเป็นดังผืนป่า ชั้นครีมสีขาวป็นราวหมอกสีขาวผ่านพัดผ่านต้นไม้แต่ละต้น ลายบนชิ้นขนมเปรียบเสมือนสายธารน้ำที่ไหลเอื่อย ผงโกโก้ โกโก้นิบส์คล้ายกับก้อนหินบนเส้นทางที่คอยย้ำเตือนถึงการเดินทาง สัมผัสแห่งเชอร์รี่และ Kirschwaßer บอกเล่าเรื่องราวของหุบเขาที่ซ่อนตัวอยู่ใต้แสงจันทร์จนกลายเป็นความทรงจำ


ให้รสสัมผัสของเค้กแบล็คฟอเรสต์นี้ได้นำพาคุณไปสู่อีกโลก โลกที่ทุกๆ คำในสัมผัสนั้นคือการผจญภัยผ่านการรังสรรขนมหวานนี้ด้วยฝีมือที่ปราณีตและพิถีพิถัน ผ่านจิตวิญญาณของเชฟที่กลายเป็นเรื่องราวของนวนิยายแห่งรสชาติที่รอคอยการค้นพบ


bottom of page